- บทนำ
- ชนิดของการ์ดแสดงผล
- หน่วยความจำบนการ์ดแสดงผลกับความละเอียดของการแสดงผล
- การเลือกซื้อการ์ดแสดงผล
- จอภาพ
- ชนิดของจอภาพ
- สัดส่วนของจอภาพ
- ขนาดของจุด
- การพิจารณาเลือกซื้อจอภาพ
- สามารถของชนิดของการ์ดแสดงผลได้
- สามารถอธิบายหน่วยความจำบนการ์ดแสดงผลกับความละเอียดของการ์ดแสดงผล
- สามารถเลือกซื้อการแสดงผลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถเลือกจอภาพมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อธิบายความหมายของการ์ดแสดงผลได้
- อธิบายถึงการ์ดแสดงผลได้
- สามารถบอกถึงวิธีการเลือกซื้อการ์ดจอ และจอภาพได้
การ์ดแสดงผล เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ทำหน้าทีในการประมวลผลสัญญาณของภาพเพื่อส่งต่อไปยังมอนิเตอร์ เพื่อแสดงภาพ สำหรับการ์ดแสดงผลนี้เป็นจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่ต้องการภาพที่สมจริงรวมไปถึงคนที่ต้องการเล่นเกมส์ และคนที่ชอบตัดต่อ VDO ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะติดตั้งมาพร้อมเมนบอร์ด แต่คนที่ต้องการจะมีการ์ดแสดงผลแยกตางหากก็สามารถ เลือกที่ไม่มีติดตั้งก็ได้
ประเภทของ การ์ดแสดงผล
1.AGP(Accelerated Graphics Port) เป็นพอร์ตรุ่นเดิมในปัจจุบันได้ล้าสมัยไปเพราะมีความเร็วที่ต่ำ
2.PCI Express
เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด ซึ่งมีความเร็วมากกว่า AGP
1. รู้จักการ์ดแสดงผล
การ์ดแสดงผล (Graphic Card, Display Card หรือ VGA Card) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แปลงสัญญาณทางดิจิตอลให้เปลี่ยนเป็น
สัญญาณภาพที่แสดงผลผ่านจอคอมพิวเตอร์ ชนิดของการ์ดแสดงผลจะเป็นตัวกำหนดความเร็วในการแสดงผล ความละเอียดและความคมชัด ของกราฟฟิก รวมทั้งจำนวนสีที่สามารถแสดงผลด้วย
การ์ดแสดงผลจะประกอบด้วยส่วนต่างๆที่ไม่ซับซ้อนมากนักโดยส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆบนการ์ดจะมีข้อความอธิบาย ไว้ด้วย ซึ่งจะสนับสนุนช่องต่อแบบใดบ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของการ์ดรุ่นนั้นๆด้วยสำหรับส่วนประกอบต่างๆ
ที่สำคัญก็คือชิปกราฟฟิกแรมบนตัวการ์ดพอร์ตเชื่อมต่อสายสัญญาณกับจอภาพ และอินเทอร์เฟสของการ์ด
รูปที่ 5.1 การ์ดแสดงผล
นอกจากนั้นการ์ดบางรุ่นยังมีช่องต่อต่าง ๆ ต่อไปนี้เพิ่มด้วย
ช่อง DVI สำหรับต่อกับจอภาพ LCD
ช่อง Video – in สำหรับรับไฟล์วิดีโอจากกล้องวิดีโอ ช่อง Video-out สำหรับแสดง/นำไฟล์วิดีโอออกไปยังอุปกรณ์ภายนอก ช่อง TV-out สำหรับต่อเข้ากับทีวี (เป็นการ์ดแบบ TV-Tunner )
รูปที่ 5.2 ช่องต่อต่าง ๆ ของการ์ดแสดงผล
คอมพิวเตอร์รุ่นประหยัดในปัจจุบัน มักจะมีชิปสำหรับแสดงผลติดตั้งมาพร้อมกับเมนบอร์ด หรือเรียกว่า Video on Board อยู่แล้ว ซึ่งส่วนเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ออกมาทางด้านหลังของเมนบอร์ดก็จะมีเพียงพอร์ต VGA สำหรับต่อเข้ากับสายสัญญาณจากจอภาพเท่านั้น
2. ชิปแสดงผลจากค่ายอื่น ๆ
นอกจากชิปแสดงผลยอดนิยมจากค่าย nVidia และ ATi แล้วยังมีผู้ผลิต จากค่ายอื่น ด้วย ซึ่งก็มุ่งเน้นตลาดในระดับที่แตกต่างกันไป
ดังนี้
3. คุณสมบัติอื่น ๆ ของการ์ดแสดงผล
นอกจากการพิจารณาตัวชิปบนการ์ดแล้ว ในการเลือกการ์ดแสดงผลมาใช้งานยังมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบ กันด้วย เพื่อให้ได้การ์ดที่มีประสิทธิภาพตรงกับงานที่ทำอยู่ด้วย เช่น มาตรฐาน การเชื่อมต่อ ชนิดและขนาดของแรมบนการ์ด เป็นต้น
3.1 มาตรฐานการเชื่อมต่อ การแสดงผลในปัจจุบันใช้ระบบบัสเชื่อมต่อแบบ AGP ( Accelerated Graphic Port )
ซึ่งมาแทนการเชื่อมต่อแบบ PCI โดยมาตรฐาน AGP นี้ทำให้ได้ความเร็วด้านการแสดงผลเพิ่มขึ้น เริ่มต้นที่ความถี่ 66 MHz (ในระบบบัส PCI ทำงานที่ความถี่33 MHz ) และความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ 266 MB/s โดยปัจจุบัน พัฒนาไปถึงมาตรฐาน AGP 8x ที่มีความเร็วในการทำงานถึง 2 GB/s เลยทีเดียว
1) มาตรฐาน AGP 4x เป็นมาตรฐานที่มีใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน โดยรับ/ส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วเป็น 2 เท่า
ของ AGP 2x โดยใช้ความกว้างบัส 32 บิต สามารถส่งข้อมูลได้ 4ครั้งใน 1 สัญญาณความถี่ ดังนั้นความถี่ในการส่งข้อมูลจะเท่ากับ 266 MHz นั่นคือความเร็ว ในการรับส่งข้อมูลสูงสุดเป็น 266 MHz x 4 Bytes = 1064 MB/s หรือ 1 GB/s
2) มาตรฐาน AGP 8x AGP 8x เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อใหม่ที่สามารถทำงานได้ที่ความเร็วสูงสุด 2 GB/s
ปัจจุบันเมนบอร์ดรุ่นใหม่ ๆ สนับสนุนมาตรฐานนี้กันบ้างแล้ว โดยการ์ดหลาย ๆ รุ่น เช่น ของ WinFast ที่ใช้ชิปกราฟฟิก GeForce FX 5800 หรือการ์ดของ Gigabyte ที่ใช้ชิปกราฟฟิก ATi Radeon 9000 Pro ก็รองรับมาตรฐาน AGP 8x ด้วย
3.2 หน่วยความจำบนการ์ดแสดงผล การทำงานของการ์ดแสดงผลนั้น มีอยู่ 2 โหมด คือใหมด Text และโหมด
Gaphic ซึ่งปัจจุบัน ในการทำงานบน Windows นั้นเป็นการแสดงผลในแบบโหมด Graphicซึ่งหน่วยความจำบนการ์ดจะคอยรับข้อมูล ที่มาจากซีพียูถ้าหน่วยความจำ มากก็จะรับข้อมูลจากซีพียูมากช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพมีความเร็วสูงขึ้น
การพิจารณาหน่วยความจำบนการ์ดแสดงผลนั้น สิ่งที่ควรดูมากที่สุดก็คือเรื่องของประเภทแรม
และขนาดแรม แรมที่ใช้บนการ์ดแสดงผลในปัจจุบันมีตั่งแต่ 32-128 MB ซึ่งขนาดของแรมที่มากก็จะช่วยให้คุณภาพ การ์ดแสดงผลของการ์ดสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับชนิดของหน่วยความจำที่ใช้กันบนการ์ดแสดงผลในปัจจุบันนั้นมีดังนี้
1) แรมชนิด SDRAM เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้เป็นหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์นั่นเอง มีอัตราการส่งข้อมูล
โดยประมาณ 528 MB ยังคงมีการนำมาใช้บนการ์ดแสดงผลในปัจจุบัน รองจากแรมชนิด DDR SDRAM ที่มักเป็นมาตรฐานของ การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ ๆ 2) แรมชนิด DDR SDRAM เป็นแรมที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้บนการ์ดแสดงผลมากที่สุด ในปัจจุบัน เพราะสามารถทำงานได้เร็วกว่าแรมชนิด SDRAM ถึง 2เท่าที่ความถี่เดียวกัน 3) แรมชนิด DDR2 เป็นแรมที่ถูกพัฒนาเพื่อทำงานร่วมกับการ์ดแสดงผลโดยเฉพาะ และจะนำไปใช้
เป็นแรมปกติที่ทำงานร่วมกับซีพียูด้วย DDR2 จะเข้ามาช่วยลดปัญหาคอขวดในการรับส่งข้อมูล ระหว่างชิปกราฟฟิก
ไปยังหน่วย ความจำบัฟเฟอร์ ทำให้สามารถแสดงผลได้รวดเร็วขึ้น รองรับการทำงานที่ความเร็วมากถึง 1 GHz
|
ควรเลือกขนาดของจอภาพให้เหมาะกับขนาดของสถานที่และจำนวนของผู้ชม ในการบอกขนาดของจอภาพมีอยู่สองวิธีคือการบอกขนาดด้วยความกว้างและความยาวเช่นจอ 50 นิ้วคูณ 50 นิ้วหมายถึงกว้างห้าสิบนิ้วและยาวห้าสิบนิ้ว และอีกแบบหนึ่งคือการบอกเป็นตัวเลขวัดความยาวตามแนวทะแยงมุมเช่นจอภาพ 100 นิ้วหรือ 120 นิ้ว อันนี้จะเป็นการวัดจากมุมบนด้านใดด้านหนึ่งไปหามุมล่างด้านตรงข้าม
จอภาพนั้นนอกจากจะมีขนาดใหญ่เล็กต่างกันแล้วยังมีสัดส่วนที่ต่างกันด้วย จะเห็นได้ว่าบางรุ่นจะมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสบางรุ่นก็มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สัดส่วนของจอภาพจะระบุเป็นตัวเลขได้ดังนี้ 1:1 , 4:3 , 16:9
การเลือกก็ต้องตัดสินใจจากการใช้งานอีกเช่นเคยเช่นในการนำเสนองานก็ควรใช้จอภาพที่มีสัดส่วน 1:1 หรือ 4:3 หรือในการชมภาพยนตร์ก็ควรใช้จอภาพที่มีสัดส่วน 16:9 เพื่อให้พอดีกับขนาดภาพที่ใช้ในโรงภาพยนตร์
วิธีการพิจารณาในการเลือกซื้อจอ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น